ความเข้มขลังอย่างหนึ่ง ของหนังไทยคือการเซ็ตโลกของนักฆ่าได้อย่างมีสเน่ห์
พวกเขามาพร้อมกับฉายาที่เอามาจากเอกลักษณ์, บ้านเกิด หรือ ปูมหลังของตัวนักฆ่าเอง อย่างเช่นใน Beyond forgiving ดอกไม้ในทางปืน งานกำกับของ มานพ อุดมเดช ที่เล่าเรื่องราวของนักฆ่าอย่าง ลพ ลำนารายณ์ กับ นิด วัดสอง คือเอาแค่โปสเตอร์ที่ปล่อยมาก็คลั่งแล้ว ตอนปล่อยตัวอย่างออกมา
จำได้ว่าหนังน่าดูจริงๆ แล้วเครดิตการกำกับที่ผ่านมาของ มานพ อุดมเดช อย่าง กระโหลกบางตายช้า กระโหลกหนาตายก่อน คืองานระดับมาสเตอร์พีชของหนังไทยแนวฟิล์มนัวร์จริงๆ เด็กรุ่นใหม่ควรไปหาไปขุดมาดู แต่กับ "ดอกไม้ในทางปืน" เรื่องนี้ดูเหมือนว่าหนังแทบจะไม่ได้มีอะไรเหมือนที่โปสเตอร์ หรือ ตัวอย่างหนังเป็นเลย ดูหนัง ทุกวันนี้ยังงงๆว่ากูชอบหรือไม่ชอบหนัง เพราะเหมือนเป็นหนังที่ส่วนตัวเอามากๆของอามานพ หนังมันทำให้นึกถึงการเข่นฆ่า ห่ำหั่น ยิงกันแบบสโลว์ๆเท่ๆในแบบที่หนังฮ่องกงยุคนั้นเป็น ทว่ามันไม่ใช่ นี่คือโลกนักฆ่าที่เหมือนทั้งตัวละครและทั้งตัวหนังมันกำลังทะเลาะกับตัวเองอยู่ว่าจะเอาทางไหนกันแน่ นักฆ่าที่รับงานสุดท้ายเพื่อวางมือ แล้วไปพบรักกับสาวขายประกัน คนหนึ่งนักฆ่า คนหนึ่งหาแดกกับความเป็นความตายของคนด้วยการขายประกัน นี่คือเซ็ตตัวละครที่น่าสนุกหากว่าคุณอามานพแกไม่ติสท์แดกทำเป็นหนังส่วนตัวที่มึนๆงงๆเสียก่อน (อย่าว่าแต่อามานพเลย หนังหว่องกาไว ดังๆบางเรื่องก็ให้ความรู้สึกเดียวกัน) เลยขอจัดให้หนัง"ดอกไม้ในทางปืน"อยู่ในหมวดหนังแนวๆเดียวกับของ หว่องกาไว นั่นแหละ Fallen Angels นักฆ่าตาชั้นเดียว หรือ Chungking Express ผู้หญิงผมทอง ฟัดหัวใจให้โลกตะลึง อะไรพวกนี้ ซึ่งจนป่านนี้กูยังไม่แน่ใจว่าชอบมันไหม แต่หากเจาะลึกลงไปถึงการสร้างตัวละครขึ้นมา แน่นอนว่าวงการนักฆ่าจริงๆของบ้านเราในยุคก่อน มันมีความคาบเกี่ยวกับในหนังชนิดที่ว่ามึงก็เอามาจากเรื่องจริงนั่นแหละ เพียงแต่มือปืนรับจ้างจริงๆอาจไม่ได้เดินเท่ๆไปยิง อาจไม่ได้หล่อเหลาแบบในหนัง พวกเขาจะมาพร้อมกับฉายาต่างๆอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ลพ ลำนารายณ์ , นิด วัดสอง หรือ สวน สรรพยา ล้วนเป็นชื่อที่ถูกคิดมาเป็นอย่างดีว่ามันมีสเน่ห์ จะสังเกตได้ว่าโปสเตอร์หนังเน้นโทนแดง และมีการจัดวางให้คล้ายๆหนังบู๊ฮ่องกง ส่วนตัวคิดเล่นๆว่าถ้าตัดเอา นิด วัดสอง ที่รับบทโดย ชัย ชัยอนันต์ ตรีสารศรี (ชัย วงพองพอง เจ้าของเพลงฮิต หน้าใสใส เมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ) ออกจากโปสเตอร์ไป มันจะเป็นโปสเตอร์หนังที่ธรรมดามากๆ แต่การมีอยู่ของ นิด วัดสอง ในโปสเตอร์มันช่วยยกระดับความเท่จริงๆ ด้วยรูปร่างและลายสัก มันกระตุ้นต่อมอยากดูได้เป็นอย่างดี หนังอีกเรื่องที่สามารถเซ็ตโลกของตัวละครนักฆ่าได้เป็นอย่างดีจนแทบจะเหมือนเอาเรื่องจริงมาตีแผ่คือ "ซุ้มมือปืน" ของเสือเตี้ย สนานจิตต์ บางสพาน ที่วางปากกาจากงานวิจารณ์ลงมากำกับหนังเอง และสามารถทำได้ดีจนมีคนแอบแซะแกว่าเคยเป็นมือปืนเก่า หรือเคยอยู่ซุ้มไหนมารึเปล่า เพราะโลกที่ถูกเซ็ตขึ้นในซุ้มมือปืน แทบจะไม่ต่างจากเรื่องจริงเท่าไหร่ ทหารเก่าออกมาเป็นนักฆ่า มือปืนมีนาย มือปืนไร้นาย นักการเมืองโฉด ทหารชั้นผู้ใหญ่ใจชั่ว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลถูกเอี่ยวโยงหากันแบบเป็นลูกโซ่ หนังมีบทพูดแมนๆเท่ๆ ซึ่งหนังไทยยุคใหม่อาจดีจริงแต่ไดอาล็อกต่างๆไม่ติดหูเท่าหนังยุคก่อน สหายแทนไท , อิฐ อัมพวา คือสองมือสังหารที่อุดมการณ์ต่างกัน พวกเขาห้ำหั่นกันมาตั้งแต่ยุคเข้าป่า เว็บดูหนัง คนหนึ่งเป็นอดีตสมาชิกคอมมิวนิสต์ อีกคนคือฝ่ายทหารที่ตามล้างบางพวกคอมมิวนิสต์อีกที และเมื่อออกจากป่า คนหนึ่งเลือกที่จะฆ่าอย่างหลบซ่อน อีกคนเลือกที่จะเป็นนักฆ่ามีนาย ทำอะไรแบบอุกอาจได้เพราะมีนายคุ้มกะลาหัว แล้วหนังก็พาไปสำรวจโลกแห่งอาชญากรรมที่มีทั้งนักการเมือง ทหารใหญ่ หรือแม้กระทั่งแม่เล้ามาเกี่ยวข้อง หนังไม่ได้ถูกนำเสนอแบบโฉ่งฉ่าง มีฉากยิงเท่ๆหมุนตัวสามตลบ หรือมีกังฟูมวยไทย แต่มันอยู่ในหมวดงานมาเฟียคลาสสิคแนวๆ มาร์ติน สกอร์เซซี่ อะไรพวกนี้
แต่ไม่ได้พล่ามกันไฟลุกเท่า เพราะหนังของเสือเตี้ยเรื่องนี้เน้นบทสนทนาที่น้อยแต่เชือดเฉือน หนังถือว่าออกมาเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง แม้จะมีความเชยไปบ้างก็ตามที แต่เป็นความเชยที่ค่อนข้างมีสเน่ห์
Comments