จอสส์ วีดอน ในวัยหนุ่มถูก Universal Pictures ส่งไปกองถ่ายหนัง Waterworld
เพื่อแก้สคริปต์พร้อมๆกับควบตำแหน่งเป็นผู้ช่วยกำกับ ในตอนนั้นเขาคิดแค่ว่านี่คือโอกาสอันดีที่จะฝึกฝีมือในหนังฟอร์มยักษ์ที่มี เควิน คอสเนอร์ เป็นพระเอกเชียวนะ เมื่อไปถึง จอสส์ได้พบว่า เควิน เรย์โนลด์ ผุ้กำกับตัวจริงได้เปิดตูดแน่บออกจากโปรเจ็คไปแล้ว เหตุเพราะมีความขัดแย้งถึงขั้นแตกหักกับ เควิน คอสเนอร์
ทั้งที่ทั้งสองถือว่าเป็นผู้กำกับและพระเอกคู่บุญที่ทำหนังคุณภาพด้วยกันมาถึง 3 เรื่องก่อนหน้านี้คือ Fandango และ Robin Hood: Prince of Thieves อีกเรื่องคือ Rapa Nui ซึ่ง เควิน คอสเนอร์ ไม่ได้นำแสดง แต่นั่งตำแหน่งโปรดิวเซอร์ หนัง HD อันที่จริงพวกเขาเกือบฟาดปากกันมาตั้งแต่ตอนทำ Robin Hood แล้ว แต่ก็กลับมาจับมือกัน เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่บนโลกภาพยนตร์กับโปรเจ็คอลังการที่สุดเท่าที่ใครจะสร้างหนังสักเรื่องขึ้นมา เควิน คอสเนอร์ ในวันที่ถือเป็นยุคทองของเขา อันเนื่องจากถือเป็นโคตรมหาดาราที่ครบเครื่อง ทั้งแสดงและกำกับ รวมถึงการเป็นผู้อำนวยการสร้าง เรียกได้ว่าในยุคนั้นเขามีสถานะราวกับ ทอม ครูซ ก็มิปาน แต่เงินทองชื่อเสียงก็มาพร้อมๆกับความเป็นดาราใหญ่ที่แพ้ไม่เป็น จมไม่ลงเช่นกัน ว่ากันว่าในกองถ่าย เควิน คอสเนอร์ ใช้งบส่วนหนึ่งจ่ายสำหรับพักวิลล่าริมทะเล พร้อมผู้ช่วยส่วนตัว เขามีเชฟชั้นนำที่ทำอาหารเสิร์ฟให้เขาในทุกๆวัน และเหมาสระว่ายน้ำส่วนตัวราคา 4,500 เหรียญต่อคืน นั่นทำให้ทีมงานคนอื่นๆไม่ค่อยพอใจกันนัก เพราะทีมงานส่วนใหญ่พักในห้องพักห่วยๆ และกองถ่ายต้องปักหลักถ่ายทำยาวนาน 157 วัน ในมหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งของฮาวาย ก่อนหน้านี้ เควิน เรย์โนลด์ ผู้กำกับถึงกับต้องถ่อสังขารไปขอคำแนะนำจาก สตีเว่น สปีลเบิร์ก เรื่องการถ่ายทำหนังในทะเล เพราะสปีลเบิร์กมีประสบการณ์เคยถ่าย Jaws มาแล้ว ทว่าพ่อมดฮอลลีวู้ดให้คำแนะนำมาตรงๆว่า " อย่าถ่ายกลางทะเลกันจริงๆเลย " พูดให้ชัดเจนคือมันนรกชัดๆ สปีลเบิร์กเคยต้องยืดระยะเวลาการถ่าย Jaws จาก 50 วัน เป็น 150 วันมาแล้ว เรียกได้ว่าคิวงอกไปสามเท่าตัวเลยทีเดียว ทว่า เควิน คอสเนอร์ ไม่ฟังคำพ่อมด เขาทะเยอทะยานอยากสร้าง ในสิ่งที่ไม่มีใครเคยสร้างมาก่อน
Waterworld จะต้องเป็นผลงานแอ็คชั่น สะเทือนโลกที่คนพร้อมตีตั๋ว เข้าไปดูถล่มทลายกว่า Star war
พูดถึงบทหนังเรื่องนี้ เดิมทีคนเขียนบทอย่าง ปีเตอร์ เรเดอร์ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Mad Max 2: The Road Warrior เขาเขียนการผจญภัยคล้ายๆกันเพียงแค่เปลี่ยนมาเป็นในน้ำแทน นี่แหละจุดเริ่มแห่งความบรรลัย เขาเขียนบทเรื่องนี้ขึ้นมา โดยไม่ได้คำนึงถึงตอนถ่ายทำด้วยซ้ำ ว่ามันยากเย็นสักแค่ไหน อันที่จริงมันน่าจะเป็นแค่นวนิยายเสียด้วยซ้ำ
คือให้คนดูเอาไปจินตนาการกันเองในหัว อยากให้โลกที่มีแต่น้ำเป็นแบบไหนก็เอาเลย ทว่าไม่ใช่สำหรับ เควิน คอสเนอร์ เขาได้อ่านแล้วชอบมากๆ และสาบานว่ามันต้องออกมาเป็นหนังให้จงได้ เดวิด ทูฮีย์ คือคนเขียนบทที่สร้างชื่อจากการเขียนบท ดูหนังผ่านเน็ต The Fugitive ได้รับหน้าที่ดัดแปลงบทอีกรอบให้หนังสามารถถ่ายทำได้ง่ายและงบน้อยที่สุด แล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ Universal วางงบให้ที่ 100 ล้านเหรียญ ให้เขาสร้างมันซะ แต่อย่างที่สตีเว่น สปีลเบิร์ก เคยบอก การถ่ายทำหนังในทะเลจริงๆนั้นมันคือความหายนะชัดๆ งบประมาณบานปลายจนควบคุมไม่อยู่ ทีมงานตีกันเละเทะ โดยเฉพาะผู้กำกับกับพระเอกของเรื่อง เควิน คอสเนอร์ ซูเปอร์สตาร์ผู้จมไม่ลงในตอนนั้นต้องควักเนื้อตัวเองกว่า 22 ล้านเหรียญ ในการเสริมงบที่เกินมา หนังมันถูกถ่ายทำไปแล้วเกินครึ่ง คือเหลือแค่ไม่กี่ฉากก็จะเสร็จสมบูรณ์ แต่กองถ่ายไร้หลักเพราะคนที่เข้าใจหนังที่สุดอย่างผู้กำกับได้ถอนตัวไปแล้ว เป็น เควิน คอสเนอร์ ที่ต้องสานต่อ โดยที่สตูดิโอได้ส่งมือดีหลายคนมาช่วยกันทำมันให้จบ จะได้หมดเวรหมดกรรมเสียที หนึ่งในนั้นคือ จอสส์ วีดอน ผู้ที่เข้ามาในตำแหน่ง Script doctor พ่วงกับช่วยกำกับ เขายอมรับในภายหลังเลยว่าในขณะนั้น " มันคือการทำงานเจ็ดสัปดาห์แห่งนรกอเวจี " จากข้อมูลของรัฐฮาวายเปิดเผยว่ากองถ่าย Waterworld สร้างรายได้ให้รัฐฮาวายถึง 35 ล้านเหรียญตลอดระยะเวลาการถ่ายทำ เมื่อการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง อุปกรณ์และฉากต่างๆถูกขายทอดตลาดและถูกเก็บไว้ใช้ถ่ายทำหนังเรื่องต่อๆไปของ Universal หลายเรื่อง แม้ว่าเบื้องหลังจะนรกสักแค่ไหน แต่ Waterworld ก็เข้าฉายด้วยความสมบูรณ์ทั้งในแง่ของความสนุกและโปรดักชั่นอลังการที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างหนังมา งบ 175 ล้านเหรียญในยุคนั้นถือว่ามีเงินอย่างเดียวสร้างไม่ได้แน่นอน (ต้องใจรักด้วย) หนังทำเงินไปทั่วโลก 264 ล้านเหรียญ ถือเป็นการทำเงินที่ไม่ได้ขี้เหร่เลยสำหรับหนังสักเรื่อง ทว่าหากมองไปที่งบ ต้องเรียกว่าพอได้ทุนคืนนิดหน่อย แต่ถามว่าเจ๊งมั้ย บอกได้คำเดียวว่าเจ๊ง ไม่คุ้มกับแรงที่เสียไป หลังจาก Waterworld เควิน คอสเนอร์ ยังถือว่ามีพลังดาราอยู่ เขาหอบโปรเจ็คใหญ่ทุน 80 ล้าน ไปหา Warner bross กับหนังเรื่อง The Postman เขาทั้งกำกับและนำแสดงเอง หนังทำเงินไปเพียง 20 ล้านเหรียญ พร้อมคำวิจารณ์ถล่มก้นพระเอกคนดังจนหูรูดบานไปหมด สิ้นสุดเส้นทางพระเอกแถวหน้า และไม่เคยขึ้นไปยืนในจุดนั้นอีกเลย จนเกิดวาทกรรมในวงการผู้สร้างหนังว่า "หากอยากได้เงินจากหนังที่แสดงโดย เควิน คอสเนอร์ จงสร้างหนังกีฬาให้เขาเล่น "
อันที่จริง Waterworld ก็ไม่ใช่หนังย่ำแย่อะไร ในทางกลับกันมันคือหนังที่สนุกและโคตรทะเยอทะยานเรื่องหนึ่งในยุคนั้น หรือแม้กระทั่งยุคนี้ก็เหอะ เพียงแต่เบื้องลึกเบื้องหลังมันไม่ได้สวยหรู มันมีแต่ปัญหากับงบที่บานปลาย
Σχόλια