เสียดายวัตถุดิบ ที่หนังมีมากๆ
เหมือนน้าหม่ำแกตั้งโต๊ะประชุมแล้วถามเพื่อนฝูงว่า มึงจะฝากขายอะไรในหนังมั้ย กูจะทำหนังบู๊ไปขายประเทศเพื่อนบ้านข้างๆเนี่ย พี่โหน่ง ชะชะช่า ยกมือเป็นคนแรกแล้วบอก " ฝากบะหมี่โหน่งไปขายหน่อย อยากเปิดสาขากัมพูชากับลาว" ถัดไปก็วงคาราบาว "เออฝากขายคอนเสิร์ตให้พวกกูหน่อย" เอกชัย ศรีวิชัย
ก็เอากะเขาด้วย คือยัดๆเพลงอมตะของพวกกูใส่ไปในหนังก่อน เผื่อคนเขมร คนลาวได้ยินแล้วเขาชอบ และอยากดูคอนเสิร์ต ปั๊มน้ำมันยี่ห้อหนึ่งก็มา สงสัยไปเปิดตลาดที่ประเทศแถวๆนี้ด้วย คืออันไหนขายลาว ขายเขมร พี่แกยัดได้หมด มันก็เลยกลายเป็นมหกรรม การไทอินครั้งใหญ่ในจักรวาล
คนใกล้ตัวน้าหม่ำ โดยมี ดูหนังฟรี ฉากหลังเป็นการบู๊สะบั้นหั่นแหลก บู๊ไปด้วยขายของกันไปด้วย เออ...ลืมอีกอันคือ ธนาคารออมสิน ยุคนี้จึงเป็นยุคที่น้าหม่ำมีสถานะไม่ต่างจากสุดยอดดาราการตลาดเข้มข้นอย่าง ดเวย์น จอห์นสัน ที่ทำหนังแอ็คชั่น โดยให้ตั้งอยู่บนพื้นฐาน ของการตลาด ให้ได้มากที่สุด
อเมริกาก็ขายได้ จีนยิ่งขายดี ส่วนน้าหม่ำก็น่าจะกินเรียบในระแวกเพื่อนบ้าน เพราะมีทั้งภาษาลาว ภาษาเขมรในหนัง ว่ากันที่คิวบู๊ ดูดีมาก ฉากลอบสังหารบนถนน ,ในร้านก๊วยเตี๋ยว ทำออกมาดูอินเตอร์ คือนี่ถ้าเน้นไปที่ปมตัวละครโดยที่ไม่ต้องเอาหลายๆ ตัวมาให้เปลืองหนังจะตอบโจทย์กว่านี้มาก
แต่ดูเหมือนหนังไม่ให้เวลากับตัวละครหลายๆตัวที่น่าสนใจเลย อย่างป๋าเทพ หรือแม้กระทั่งน้าแอ๊ด น้ารี่ คือถ้าให้พวกเขาเน้นไปที่บท ไม่ว่าจะบทตลกหรือจะออกลูกโหดก็ดี ไม่ใช่มานั่งแซวตัวเองแบบนี้เหมือนดูละครชิงร้อยชิงล้าน คือพูดง่ายๆอยากเห็นอะไรที่มากกว่าให้พวกแกมานั่งแซวตัวเองกัน
บางตัวละครเหมือนจะเน้น ไปๆมาๆก็เอามาให้พระเอกยิงเล่นฉากเดียวสองฉาก คือรู้สึกว่าหนังมันจะแอบๆทับรอยเดิมของ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม อยู่เหมือนกัน แต่ทำได้ไม่ฮาเท่า คือในหน้าเหลี่ยมนี่มันได้ตลกทั่วฟ้าเมืองไทยมาเล่นด้วยไง แม่งเลยพากันแย่งซีนและมีซีนน่าจดจำเยอะ แต่เพ่งมองกันดีๆ
หน้าหักดูเหมือนจะมีตัวขายไม่กี่ตัว น้าหม่ำ ,ป๋าเทพ ,ดิม แท็ททูฯ แล้วนอกนั้นก็เหมือนมาเดินๆโผล่ๆเหมือนตลกบางคนว่างงานแล้วน้าหม่ำโยนบทให้ คือจะใจร้ายไปไหมถ้าจะบอกว่าเอาตลกดีๆมาเล่นบทตัวประกอบสามร้อย โดยที่ไม่ให้เขาโชว์ฮาเลย อย่าง เจ๊กิ๊บ กะเทยที่เคยอยู่กับ หนู คลองเตย นี่ก็มาแบบเสียของจริงๆ
อย่าว่าแต่ตัวสมทบเลยที่ หนังออนไลน์ ไม่ได้ให้เวลา แม้กระทั่งตัวหลักอยากน้าหม่ำเองหนังก็บอกแค่ว่าเคยเป็นหน่วยรบพิเศษเหมือนๆที่เคยใช้มาแล้วในหน้าเหลี่ยมนั่นแหละ แต่ไม่ได้เล่าถึงปูมหลังอะไรเลยว่าทำไมมาเป็นยาม ชีวิตเป็นมายังไง คือเล่าสักนิดก็ดี สรุปเลยคือ ห่างไกลกับคำว่าหนังดี
แต่บทต่อล้อต่อเถียงระหว่างน้าหม่ำกับดิม ถือว่าเป็นอะไรที่เพลินเลย ถ้าให้ดีคือไม่ต้องใส่ฉากแอ็คชั่นนั่นนี่หรอก แช่กล้องไว้ให้สองคนนี้ พูดกวนตีนกันก็น่าจะบันเทิงกว่านี้นะ เรียนตามตรงว่าโคตรเสียดายวัตถุดิบที่หนังมี แต่เหมือนจะใช้งานได้ไม่เต็ม คือเหมือนมีมะเขือยาวแล้ว เอาไว้แค่เกาหลังอ่ะ
คือมันต้องทำอะไรๆได้มากกว่าแค่เกาหลังสิ อันนี้ความรู้สึกโคตรแปลก คือน้าหม่ำนี่แกไม่ใช่คนหล่อ หุ่นก็ไม่ใช่นักกล้ามอะไรนะ แต่พอแกบู๊ หน้าตาท่าทางแกแม่งเท่สัสๆ สีหน้าแววตาตอนยิงปืน ตอนท้าทายโจรไรงี้ คือเหมือนแกแสดงหนังมาเยอะจนแตกฉาน แม้แกจะอยู่ในหนังที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ออร่าก็จับแกมากๆในฐานะดาราบู๊
Comments