top of page
Search
Writer's pictureufabet Joker

Midsommar 2019

เรียกว่าระบายเหอะ อย่าเรียกว่ารีวิว


มีการใส่สัญลักษณ์ให้เราได้ตีความมากมายในจักรวาลแห่งสิ่งลี้ลับทั้งหลายแหล่ของฝรั่งมังค่าแถบยุโรป หากใครศึกษาศาสตร์เหล่านี้แบบเข้าเส้น จะพบว่ามันสนุกสนานเพลิดเพลินกับสัญลักษณ์ที่ซ่อนไว้ในหนัง แบบๆเดียวกับที่คนเชี่ยวชาญกฏต่างๆในอวกาศสนุกกับการดู Interstellar ของโนแลน


ซึ่งยอมรับตามตรงด้วยมันสมองอันน้อยนิด ในหัวกบาลล้านๆเลยว่า เข้าไม่ถึงทั้ง Interstellar ทั้ง Midsommar กูจะไม่โกหกตัวเองว่าชอบมัน แค่เพราะกลัวคนจะหาว่าเป็นนักดูหนังที่ไร้รสนิยม แต่จะบอกว่าไม่ชอบมันเลยก็ไม่น่าใช่ เพราะบางอย่างในหนังนี่ถือว่าทำงานได้ดี กับอาการหวาดระแวงของกูเหลือเกิน


ทั้งระแวงความประสาทแดกของนางเอก ทั้งระแวง ดูหนังสด รอยยิ้มและท่าทีร่าเริงของพวกคนในลัทธิห่านี่ ไอ้การคุกคามด้วยรอยยิ้มนี่มันช่างน่าสยดสยองสมคำร่ำลือจริงๆ จนกระทั่งบทสรุปของหนัง มันก็แปรสภาพกลายไปเป็นหนังตลกที่ก็ไม่รู้ว่ามึงทำแบบนั้นทำไม? สำหรับกูแล้วฉากที่ดีที่สุด กลับเป็นฉากกลางคืน


ทั้งหมดในหัวเรื่อง และฉากพาเมียไปหาเพื่อนช่วงหัวเรื่องนั่นแหละ จึงสรุปได้ว่า ไอ้การเล่นงานคนดูด้วยความสยองที่มาพร้อมกับความสว่างไสว อย่างที่คอนเซ็ปต์หนังเป็นนั้น ใช้ไม่ได้ผลกับกูนักหรอก เป็นพฤติกรรมหน้าเนื้อใจ หมาของคนในลัทธิต่างหากที่ทำงาน กับความกลัวของกูได้ดี และการคุกคามคนดูด้วยเสียงแปลกๆ


ที่เกิดจากอารมณ์ของมนุษย์ เสียงร้องไห้ในหนังจะไม่ได้มาแบบ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ร้องไห้ในละครแน่ๆ แต่มันคือการร้องไห้จริงๆ เสียงจากอารมณ์มนุษย์นี่แหละน่าสยดสยองที่สุดแล้ว ไหนจะเสียงสวด เสียงแปลกๆจากการทำพิธีกรรม ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่ได้เกิดจากซาวด์ประกอบหนัง แต่เป็นเสียงที่เปล่ง


มาจากปากมนุษย์ในหนัง แต่อย่างที่บอก ความกลัวแม่งบางทีมันก็มาพร้อมความตลก อารมณ์เดียวกับที่กูนั่งดูพิธีกรรมหลายๆอย่างของคนพุทธ คนคริสต์ คนอิสลามนั่นแหละ เสียงร้องเสียงสวดก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก นี่พูดกันตรงๆ คือนั่งฟังได้ แต่ถ้าให้เลือก ขอลุกหนีดีกว่า อย่างที่กล่าวมาข้างต้น


ว่าหนังใส่สัญลักษณ์มากมายเกี่ยวกับลัทธิหรือความเชื่อของคนพื้นเพยุโรปที่หากไม่ได้ศึกษาหรือทำการบ้านไปก่อนเข้าโรง เราจะไม่ได้อินเนอร์กับมันเท่ากับคนที่ได้อ่านไปแล้ว ดังนั้นขอยืมแรงมิตรสหายที่เขียนถึงสัญลักษณ์ต่างๆในหนังเอาไว้มาเผยแพร่ เพื่อที่ว่าใครอยากลองของก็จะได้ทำการบ้านกันก่อนเข้าโรง

ดูหนังสด

จะอย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับตั๋วร้อนแล้ว หนังถือเป็นความทรมานบันเทิงอย่างเลี่ยงไม่ได้ และจะไม่โกหกตัวเองด้วยว่าชอบมันเหลือเกิน เพราะผลลัพธ์ที่ได้คือมันไม่ได้สนุก และไม่ได้อินเท่ากับหนังที่มีเส้นเรื่องคล้ายๆกันอย่าง The Wicker Man / Get out หรือ Apostle อะไรแนวๆนี้ที่ยืน อยู่บนพื้นฐานของหนังสนุก 


และทำให้รู้ว่า อารี แอสเตอร์ ผู้กำกับแม่งฝักใฝ่ในลัทธิเหี้ยๆ แม่งบ้าการบูชายัญของจริงตั้งแต่เรื่องที่แล้วละ เรื่องย่อ Midsommar 2019 “ดานี” และ “คริสเตียน” คู่รักที่เดินทางมายังประเทศสวีเดนตามคำชักชวนของเพื่อนร่วมมหา’ลัย ที่นั่นพวกเขาและเพื่อนๆ วางแผนที่จะไปเที่ยวเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูร้อน


ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลและร้างไร้ผู้คน เว็บสตรีมหนัง เทศกาลนี้จะจัดขึ้นเพียง 1 ครั้งในรอบ 90 ปี เป็นเวลา 9 วัน และเป็น 9 วันที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน แต่ยิ่งพวกเขาคลุกคลีอยู่กับดินแดนที่เหมือนจะสดใสแห่งนี้เท่าไร ก็ยิ่งค้นพบเรื่องราวสุดแปลกประหลาด และชวนขนหัวลุกขึ้นเรื่อยๆ และกว่าจะรู้ตัวก็แทบจะสายเกินไป…


“Midsommar” เป็นผลงานการกำกับเรื่องที่ 2 ของ “แอรี แอสเตอร์” ผู้กำกับ “Hereditary กรรมพันธุ์สยอง” หนังสยองขวัญครอบครัวสุดหลอนที่เข้าฉายเมื่อปี 2018 และได้รับคำชมมหาศาล ติดอันดับหนังยอดเยี่ยมแห่งปีจากหลายสำนัก หนังได้นักแสดงดาวรุ่งหลายคนมารับบทนำ ไม่ว่าจะเป็น “ฟลอเรนซ์ พิวจ์”


จาก “Fighting with My Family (2019), “วิล โพลเทอร์” จาก “The Maze Runner” (2014) และ “แจ็ก เรย์เนอร์” จาก “Transformers: Age of Extinction” (2014) หนึ่งในฉากสำคัญของ “Midsommar” ที่ปรากฏในตัวอย่างคือ ฉากรับประทานอาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper) “แจ็ก เรย์เนอร์”


ผู้รับบทเป็น “คริสเตียน” กล่าวถึงตัวละครชาวบ้านผู้เข้าร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในหนังเรื่องนี้เอาไว้ว่า “คนพวกนี้โคตรน่าขนลุกสุดๆ และคนดูจะต้องเอาใจช่วยพวกเราไปตลอดทั้งเรื่องแน่ๆ”

6 views0 comments

コメント


bottom of page