เชื่อไหมว่ากว่าจะมาเป็น American History X (1998) หนังที่พูดถึงนีโอนาซีกลับใจ ในตำนาน
ซึ่งนำแสดงโดย เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน หนังประสบปัญหาอย่างมากในขั้นตอนการตัดต่อ จนเกือบมีมวยระหว่างผู้กำกับ โทนี่ เคย์ กับ พระเอก เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน อันที่จริงปัญหามันสุมมา ตั้งแต่ตอนถ่ายทำไปครึ่งเรื่องแล้วเพราะผู้กำกับโทนี่ เคย์ แกรู้สึกว่าเอ็ดไม่เหมาะกับบทบาทนี้ ทั้งที่ก่อนเริ่มถ่ายทั้งคู่แทบจะแหกดากดมกัน
เพราะได้พระเอกฝีมือเยี่ยมมาแล้วยังได้มุมมองต่างๆในการเขียนบทพ่วงมาด้วย เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน คือผู้ที่ศึกษาเรื่องนีโอนาซีอย่างแตกฉานถ่องแท้ และเขาใช้ความรู้ในจุดนี้ช่วยในการเขียนบทหนัง พร้อมๆกับที่เขาต้องอัพน้ำหนักขึ้นจากชายร่างเพรียว สู่หนุ่มร่างบึกบึนที่สาวๆเห็นเป็นต้องสยิวใจไปตามๆกัน แต่มีการเล่นแง่กันเกิดขึ้นมาตลอดการถ่ายทำ เพราะโทนี่มองว่าเขาเลือกพระเอกผิดคนจริงๆ ผลลงเอยด้วยการที่ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน เข้าชิงออสก้าร์ในบทนี้ แต่กว่าจะเข็นหนังเรื่องนี้มาจนจบแล้วได้เข้าฉาย เอ็ดต้องรับผิดชอบในส่วนของงานตัดต่อหนังที่เหลือกว่า 60% ด้วยตนเอง เพราะว่าโทนี่ เคย์ ลาออกจากโปรเจ็คไปแล้วไม่ขอรับเครดิตชื่อในการกำกับเรื่องนี้ ก่อนออกเขาเสนอชื่อ Humpty Dumpty ใส่แทนชื่อเขาในเครดิตกำกับ ดูหนังออนไลน์ สตูดิโอปฏิเสธและหวังเจรจาให้โทนี่ เคย์ กลับมาในโปรเจ็คซะ หนังดราฟต์สุดท้ายมันเป็นหนังที่ดีแล้ว แต่โทนี่ดูแล้วไม่ชอบหนังดราฟต์สุดท้ายที่ตัดต่อเสร็จ แถมกวนตีนผู้บริหารค่ายหนัง New Line Cinema โดยการไปขอให้ บาทหลวง , แรบไบ และ พระทิเบต ให้เข้าไปร่วมเป็นสักขีพยานในการประชุมคัดค้านที่จะเอาหนังเข้าฉาย
โทนี่ เคย์ ให้เหตุผลว่าเขามีมุมมองใหม่ต่อหนังเรื่องนี้ และขอเวลาอีก 1 ปี
เพื่อแก้ไขบทแล้วถ่ายซ่อมมัน โดยเขาจะบินไปแคริเบียนเพื่อใช้เวลา 8 สัปดาห์เขียนบทเพิ่มเติมแล้วจะกลับมาพร้อมกับบทที่เพอร์เฟ็คกว่านี้ สตูดิโอคัดค้าน ความบาดหมางลงเอยด้วยการที่ โทนี่ เคย์ ขู่ฟ้องสตูดิโอ 200 ล้านเหรียญ หากไม่ทำตามเขาต้องการ ผลลัพธ์คือเป็นฝ่าย โทนี่ เคย์ ที่จำต้องยอมรับเครดิตไป
เพราะมองมุมไหนก็ไม่มีทางฟ้องร้องได้เลย โทนี่ เคย์ มีหนังสารคดี Humpty Dumpty ในมือ เป็นบันทึกเรื่องราวร้าวๆระหว่างการถ่ายทำ American History X โดยเขาขู่จะปล่อยฉายหากไม่ได้ค่าเสียหาย 200 ล้าน แต่ว่ากันว่าในสารคดีนั้นแทบไม่มีอะไรเลย มีแค่การใส่อารมณ์ถกเถียงกันระหว่างการทำงานเฉยๆซึ่งศาลไม่มีทางรับฟ้องแน่นอน อันนี้ไม่ฟ้องมึงกลับแกก็บุญหำแล้ว หนังถือเป็นความยอดเยี่ยมและน่าจดจำมากๆในปีนั้น เครดิตส่วนใหญ่มาจากความอดทนอดกลั้นของ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ที่รับหน้าเสื่อทุกๆอย่างที่โทนี่ เคย์ ทำเละไว้ เรียกง่ายๆว่าเขาคือ"ไอ้เอ็ดเช็ดขี้"นั่นเอง ว่ากันว่า โทนี่ เคย์ แทบไม่มีใครอยากยุ่งกับเขาหลังโปรเจ็ค ซีรี่ย์ Netflix American History X และการที่หนังถูกเมินบนเวทีออสก้าร์ มีแค่ชื่อ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน เข้าชิงในสาขานำชาย นั่นเพราะบอร์ดบริหารออสก้าร์กลัวมีปัญหาในภายหลัง ไหนจะเรื่องที่หาก American History X เสือกได้ออสก้าร์หนังยอดเยี่ยมไป มันจะเกิดเรื่องวุ่นๆขึ้นเพราะ โทนี่ เคย์ คนนี้แหละ(ปีนั้น Shakespeare in Love คว้าออสก้าร์ไป) เขาเคยเป็นผู้กำกับ MV เจ้าของสถิติเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ 6 ครั้ง ใช่ เขาเก่งมากๆ แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องการไม่ยอมทำตามสตูดิโอเช่นกัน ไม่มีใครควบคุมเขาได้ เขาแทบจะโดน เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน กระทืบหัวใส่ริมฟุตบาทแบบในหนังอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นมาได้ คิดเล่นๆว่าหาก เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ได้ออสก้าร์ในปีนั้น แน่นอนว่าเขาจะภูมิใจมันมากกว่าคนอื่นๆหลายเท่า
เพราะว่าเขาไม่ใช่แค่นำแสดง แต่หลายๆส่วนมันเกิดขึ้นได้เพราะเขามีส่วนอย่างมากเกินกว่าจะได้เครดิตแค่ดารานำ มันเรียกได้ว่า American History X คือความทุ่มเททั้งชีวิตของ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน เลยในช่วงเวลานั้น
Commentaires