หนังเรื่องนี้ถูกขับ เน้นไปที่การเอาตัวรอดในสถานการณ์ซอมบี้ระบาด ตามชื่อเรื่อง Alive นั่นแหละ
แต่....หนังแนวๆนี้ถ้าตัวละครหลักมันไร้สเน่ห์ แถมแทบไม่มีสกิลเหี้ยอะไรเลย มันจึงพาลให้หงุดหงิด รำคาญ แทนที่จะทำให้คนดูเอาใจช่วย กูกลับลุ้นให้แม่งโดนซอมบี้แทะคอแม่งตายๆ ไปซะ คือมึงไม่ต้องเก่งเว่อร์วังเหมือน แบรด พิตต์ ใน WWZ ก็ได้ อันนั้นก็เก่งจนน่ารำคาญเหมือนกัน แต่ไอ้พระเอกนี่มึงทำให้กูสิ้นหวังกับคำว่า Alive
ในความหมายของชื่อหนังมึงมากๆ จนกระทั่งการปรากฏตัวบนจอของนางเอก นั่นแหละทำให้หนังยังพอมีอะไรๆเจริญหูเจริญตาอยู่บ้าง และเหมือนหนังจะรู้ตัวเองดีด้วยซ้ำที่วางคาแร็คเตอร์โง่ๆใส่ตัวพระเอก เพราะคำทักทายแรกที่นางเอกทักพระเอกคือ "ไอ้โง่" กูนั่งพยักหน้าหงึกๆตามที่นางเอกทัก เออแม่งโง่จริงๆ จนกระทั่งมาตอกย้ำความโง่ของพระเอกด้วยการให้นางเอกย้ำอีกรอบสองรอบว่า "มึงนี่มันเป็นไอ้โง่จริงๆด้วย" โอเคโง่ก็โง่ เพราะหนังแนวๆนี้ถ้าไม่โง่เราจะไม่ได้เห็นสถานการณ์ล่อแหลมต่างๆแน่นอน มันจะออกมาเป็น ดูหนังฟรี Zombieland ที่คนในหนังพากันฉลาดจนซอมบี้ดูโง่สัสๆเหมือนเอาซอมบี้มายิงเล่นในหนังให้คนขำกัน แต่ Alive นี่แทบไม่มีทางรอดได้เลย มันจึงทำให้ความหมายของ Alive ดูเข้มขลังขึ้นเพราะความโง่ของตัวละครนี่แหละ โง่ถึงขนาดที่นางเอกจากที่กูคิดว่าฉลาดๆมันยังทำอะไรโง่ๆตามพระเอกไปซะงั้น อิเหี้ย!! หมดกัน แล้วจะให้กูหวังอะไรกับพวกมึงอีก
ก็เลยทำความเข้าใจ คิดเสียว่าหนังมันมีแก่นที่แท้จริงคือ "คนโง่ๆในสถานที่จำกัด จะเอาตัวรอดจากซอมบี้และความอดอยากได้ยังไง"
หนังแม่งแทบจะเป็นโฆษณาบะหมี่ขนาดยาวไปแล้ว เพราะความอินเนอร์ที่กูมีให้หนังเพียงฉากเดียวคือฉากต้มมาม่าแดกของพระเอกนั่นแหละ อาห์..... แม่งคือจะลงทุนขายมาม่ามึงก็ต้องเอาเบอร์นี้แหละ ขายมาม่ายังไงให้สั่นสะเทือน Box office ได้ คนในวงการโฆษณาต้องเอาไปศึกษาให้จงหนัก เพราะอย่างที่บอก ฉากแดกมาม่าแม่งคือ The Best จริงๆ
กลิ่นแม่งลอยออกมาจากจอกันเลย พระเอกนั่งดูโฆษณาในทีวี กูเข้าใจความรู้สึกว่าพระเอกก็ได้กลิ่น ส่วนกูที่นั่งดูพระเอกแดกนอกจอ ก็ได้กลิ่นทั้งในทีวีพระเอก ทั้งในทีวีตัวเองอีกที สัสเอ๊ย... หิวแบบ Inception พูดถึงบะหมี่ หรือ มาม่า ที่เราชอบเรียกติดปากกันนั้น มันคือหนทางแห่ง หนังออนไลน์ Alive อย่างแท้จริง แม้ไม่ต้องมีซอมบี้บุก มาม่าซักซองในตอนที่มึงไม่มีจะแดกแล้ว มันทำให้มึงอยู่รอดได้ ถึงตอนนี้กูเริ่มค้นพบแก่นแท้ของหนังลึกเข้าไปอีกแล้วว่า แท้จริงแล้วหนังมันพูดถึงมาม่าเกาหลี พูดถึงความอยู่รอดที่มาพร้อมกับเส้นเหนียวนุ่ม รสสัมผัสแรกของมาม่ามันหอมหวานเสมอ ไม่ว่าจะยี่ห้อใด เราสามารถหาความสุขจากมันได้แค่ซองหรือถ้วยละไม่กี่สิบบาท ถามว่าดู Alive แล้วรู้สึกกลัวซอมบี้มั้ย บอกเลยว่าไม่ แต่กูกลัวอดตายมากกว่า มันเหมือนเป็นเหตุการณ์จำลองสถานการณ์โควิด-19 ได้เหมือนกัน ถ้ามัวแต่กลัวแล้วกักตัวในห้องให้อดตาย สู้กูออกไปหาแดกข้างนอกดีกว่า แม้จะเสี่ยงไปบ้าง แต่โอกาสรอดมี ดังนั้นมันต้องมีคนนำ คนกล้าตัดสินใจ ลำพังคนโง่ๆบางคนไม่สามารถทำให้ Alive ได้แม้กระทั่งตัวของมันเอง แต่กับบางคนแม่งก็สันดานเสีย เห็นแก่ตัว ใครจะเป็นจะตายกูไม่สน เอาพรรคพวกกูรอดเป็นพอ คือถ้าจะยังพอจับต้องหรือพอจะเรียกคะแนนจากกูได้ก็เป็นประเด็นการนำเสนอภาพจำลองของสถานการณ์โควิดระบาดนี่แหละ ซึ่งโอเคมันก็ยังพอถูๆไถๆไปได้
แต่ไอ้สัสเอ๊ย...ดูจบช่วงดึกๆกูหิวมาม่าเลย ไม่ได้ซื้อตุนไว้ซะด้วย ดังนั้นถ้าอยาก Alive มึงควรตุนมาม่าไว้ก่อน แม้จะไม่มีสถานการณ์ซอมบี้หรือโรคระบาดใดๆมึงก็ควรตุนไว้ดีที่สุด เดี๋ยวจะหิวดึกๆเหมือนกู รับชมได้ทาง Netflix พากย์ไทยได้ดีเชียวแหละเรื่องนี้
Comments