top of page
Search
Writer's pictureufabet Joker

500 Days of summer หนังไม่รัก ของทอมและซัมเมอร์

เมื่อเราก้าวเข้าพื้นที่ต้องห้ามของอีกฝ่ายเกินไป จนลืมซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง ... จะอยู่แบบไร้สถานะ หรือ ยอมเดินออกมา?


500 Days of summer คือ "หนังไม่รัก" ที่ถูกหยิบมาพูดถึงเสมอเมื่อเปิดวงสนทนาถึงหนังรักในดวงใจ และเพลงประกอบที่ดีราวกับมิกซ์เทปรวมซาวด์แทร็คจากช่วงหนึ่งในชีวิต "ระหว่าง ทอม กับ ซัมเมอร์ มึงว่าใครผิดวะ?" คำถามที่ไม่มีคำตอบแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะหนังไม่มีค่ากลางใดๆ ให้กับความสัมพันธ์ระหว่าง "ทอม" และ "ซัมเมอร์"

ดูหนัง

เหมือนภาพสะท้อนความสัมพันธ์ของสองคนที่มีมุมมองต่อความรักคนละขั้ว ไม่ผิดเลย ถ้าใครบางคนจะสงสารทอม เกลียดซัมเมอร์ และไม่ผิดเลยหากเราจะเข้าใจซัมเมอร์มากๆ เหมือนกัน เคยประทับใจใครบางคนจากเพลงที่ฟังมั้ย? เมื่อคุณสวมหูฟังอยู่ในโลกของตัวเอง เร่ง Volume จนสุด แต่ก็มีคนเคาะประตูเข้ามาในโลกใบนั้น ... "ฉันชอบ ดูหนัง วง The Smiths" "ทอม" รู้สึกเหมือนถูกเติมเต็ม เจอคนที่พูดภาษาเดียวกัน รสนิยมฟังเพลงเหมือนกัน เขารับเธอเข้ามาในโลกของตัวเองแบบไม่มีอะไรปิดกั้น หรือตกหลุมรักนั่นแหละ ทว่าซัมเมอร์ได้บอกเงื่อนไขในความสัมพันธ์แล้วว่า เธอ "ไม่จริงจัง" ขณะที่ทอม เชื่อและคาดหวังในเรื่องคู่แท้เสมอมา และเขามองเห็นสิ่งนั้นในตัวซัมเมอร์ เขายอมรับเงื่อนไขนั้นโดยไม่มีข้อแม้ ช่วงเวลามีความสุข ความสัมพันธ์เริ่มก่อตัว เรามักยอมรับเงื่อนไขที่ดูโง่ และตรงข้ามความรู้สึกที่สุด แต่สุดท้าย เมื่อไม่มีความสุขกับสถานะที่ไม่ชัดเจน ไม่น้อยลง แต่ก็เดินหน้าไปมากกว่านี้ไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องกลับมาซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง บางทีการไม่ต้องแปะป้ายว่าเราเป็นแฟนกัน ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ในเมื่อทุกวันนี้มันดีอยู่แล้ว แต่ใครบางคนแค่อยากมั่นใจว่า เช้าแต่ละวันอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกเปลี่ยนไป "เพราะเราไม่ได้เป็นแฟนกัน" ซัมเมอร์อาจสบายใจในความสัมพันธ์ แต่สำหรับทอม แม้ทุกวันจะมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ลึกๆ เขารู้สึกไม่มั่นคงในความสัมพันธ์ ยิ่งได้เข้าไปในโลกของซัมเมอร์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกมากเท่านั้น ทุกๆ ซีน ทอมเปิดให้เธอเข้ามาทำความรู้จักในโลกของเขาแทบจะทุกมิติ แต่ในพื้นที่ของซัมเมอร์ ดูไม่ใช่ที่ของทอมเลยแม้แต่น้อย เหมือนยังมีโลกอีกหลายใบของเธอที่เขายังไม่รู้จัก เราชอบเพลงเดียวกัน รสนิยมเหมือนกัน เรามีความสุขเมื่อได้เห็นมุมดีๆ ของกันและกัน แต่ไม่ได้แปลว่าเราทั้งคู่จะรักกัน และเป็นแฟนกัน สุดท้าย... เมื่อความสัมพันธ์จบลง จะว่าไป นี่คือเรื่องราวการ Move on ของทั้งคู่ ซัมเมอร์ ที่ไม่เคยเชื่อในการเป็นแฟน มีครอบครัว วันหนึ่งก็ตื่นขึ้นมาพบว่าความคิดนั้นได้เปลี่ยนไป  "วันหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาแล้วก็รู้เลยว่าเธอไม่ใช่คนคนนั้น" ส่วน ทอม เหมือนที่ เรเชล น้องสาวเขาเตือนว่า สิ่งที่ทำให้ทอมไม่สามารถลืม ซัมเมอร์ ได้ ก็เพราะมัวแต่คิดถึงแต่สิ่งดีๆ จนมองข้ามช่วงเวลาที่แย่ๆ ไป อย่างน้อย การเจอกันของทั้งสองคน ต่างก็ได้เรียนรู้ในความสัมพันธ์ ค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ โปรแกรมหนัง ไม่มีใครผิดถูก ซัมเมอร์ก็คือเพื่อน และความทรงจำที่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรก็ตาม ที่สำคัญ เธอเข้ามาเปลี่ยนสายตาที่มอง และเชื่อในความรักให้เปลี่ยนไป คาดหวังน้อยลง เปิดใจรับมากขึ้น หนังไม่ได้ขีดเส้นใต้บทสรุปว่า ชีวิตทอมจะเป็นอย่างไร ได้เป็นสถาปนิกอย่างที่ฝันมั้ย แต่ฤดูกาลแห่งซัมเมอร์ ทำให้เขาก้าวข้ามความคาดหวัง ความผิดหวัง ความหวาดกลัว ไปสู่ชีวิตในฤดูกาลใหม่ๆ


ทั้งเรื่องงาน ชีวิต และความสัมพันธ์ ซัมเมอร์ก็เหมือนหน้าร้อนที่แสนยาวนาน ทั้งสุข เศร้า ผิดหวัง จะเป็นจะตาย แต่มันก็คือฤดูที่เขามีความทรงจำ และการเรียนรู้บางอย่างในความสัมพันธ์ ที่ผ่านเข้ามาและผ่านไป

23 views0 comments

Comments


bottom of page