top of page
Search
  • Writer's pictureufabet Joker

คิดเล่นๆ ถ้า ตั๊ดสู้ฟุด ถูกสร้างในงบทีใหญ่กวานี้

มองดูค่าย GTH ช่วงก่อนที่จะแยกตัวออกเป็น GDH

พวกเขาก็คือค่ายหนังที่เป็นตลาดของคนเมือง หรือชนชั้นกลางกันเต็มสูบแล้วนะ แต่หากมองย้อนไปยุคแรกๆต้องขอบอกว่าพวกเขาไม่ธรรมดา ทั้งสร้างทั้งจัดจำหน่ายหนัง ที่เจาะตลาดคนชนบท อยู่เหมือนกัน 15 ค่ำเดือน 11 , โกยเถอะโยม อะไรเหล่านี้ ถ้าหากเอามาเปิดฉายตอนนี้ ให้เด็กรุ่นใหม่บางคนที่ไม่เคยรู้ดู


พวกเขาคงเดาไม่ออกแน่ว่าเป็น ดูหนังฟรี ค่าย GTH อย่างหนัง ตั๊ดสู้ฟุด ของน้าจตุรงค์ มกจ๊ก ตลกรุ่นใหญ่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่มีผลงานกับค่าย GTH ถึง 3 เรื่อง มันสร้างความแปลกประหลาดใจแก่คอหนังได้ดีทีเดียวที่ GTH ยอมมาสายนี้ กับผู้กำกับที่น่าจะไปมีผลงานกับทางฝั่ง พระนครฟิล์ม มากกว่า


แต่จตุรงค์ไม่ได้ผลิตงานใต้ชายคาของ จอกว้างฟิล์ม เขาเหมือนกับจะทำกับ อาตี๋ ฟิล์ม แล้วเอาไปแปะโลโก้ GTH เหมือนเป็นการฝากขายนั่นแหละ ซึ่งก็ถือว่าได้ผล โกยเถอะโยม ทำรายได้ไป 66 ล้าน อันทำให้จตุรงค์มือขึ้น การมาของ ตั๊ดสู้ฟุด จึงบังเกิด ผลงานอย่าง ตั๊ดสู้ฟุด มันคือหนังแหวกตลาดไปเลย


ว่ากันตามตรงคือ จาตุรงค์แกขอเอาแรงบันดาลใจ จากหนังฮ่องกงที่ตนเองชอบ มาทำเป็นฉบับตัวเอง เหตุการณ์ และตัวละครในหนังเกิดขึ้นที่ฮ่องกง โลกฮ่องกงในความคิดของจาตุรงค์ก็คล้ายๆกับโลกฮ่องกงบนเวทีตลกคาเฟ่นั่นแหละ เราเคยขำกับการเอาหนังมาเฟียฮ่องกง มาล้อบนเวทีคาเฟ่ยังไง


เราก็ขำกับ ตั๊ดสู้ฟุด อย่างนั้น เพียงแต่ครั้งนี้มันมาเป็น หนังออนไลน์ เรื่องยาวที่เอากลิ่นอาย หนังโจวซิงฉือมาใส่เต็มๆ ทีมพากย์พันธมิตร คืออีกหนึ่งพระเอกของเรื่องที่มาช่วยให้หลายๆฉากมีความโจวซิงฉือมากยิ่งขึ้น(อย่างน้อยก็ในสายตาคนไทย) ไม่ว่าจะเป็นมาแค่เสียง หรือมาแบบตัวเป็นๆอย่าง อาเกรียง เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง (คุ้นเสียงกันดีจากการพากย์เป็นอู๋ม่งต๊ะ)


ก็ให้เกียรตินำแสดงด้วย แถมแสดงได้ใกล้เคียงอู๋ม่งต๊ะจริงๆ ฉากลั่นที่ยังขำมาจนทุกวันนี้คือฉากเดินตามมาง้อลูกสาวแล้วลูกน้องยื่นปืนให้ แกบอกว่า " เอามายิงหัวพ่อมึงเหรอกูแค่คุยกับลูกสาว " 555555 โคตรลั่น อีกฉากก็เป็นฉากถามลูกน้องว่ามันทำยังไงกับมึง ถ้ามึงพูดไม่ได้มึงทำท่าทางให้กูดูก็ได้ 55555555


และที่ขาดไม่ได้คือมิตรสหาย ในวงการตลกของจตุรงค์ ก็ยกโขยงกันมาร่วมแสดงกันมืดฟ้ามัวดิน โดยเฉพาะ นุ้ย เชิญยิ้ม ที่หากใครเคยดูตลกคาเฟ่ เราจะเห็นแกเล่นเป็นมาเฟียฮ่องกงได้ฮามาก ตั๊ดสู้ฟุด นอกจากจะเป็นงานโชว์ของจตุรงค์แล้ว มันยังถือเป็นอีกงานโชว์เน้นๆของพี่นุ้ยอีกด้วย มีฉากลั่นๆ  หลายฉากอันมาจากการคิดสร้างสรรค์ของพี่นุ้ยเอง


เพราะสายมาเฟียนั้นต่อให้เล่นซ้ำๆๆกันแค่ไหนบนเวทีคาเฟ่ แม่งก็ฮาได้ทุกครั้งไป เป็นมวยถนัดของพี่นุ้ยเลย อย่างเช่นฉากด่าอีเจ๊สามนี่ลั่นทุกฉาก คนอื่นๆเช่น โก๊ะตี๋ , แอนนา ชวนชื่น , จิ้ม ชวนชื่น ก็ล้วนแล้วแต่มีซีนของตัวเองที่เด่นไม่แพ้กัน ส่วนพระเอกอย่าง บอย AF และ จิ๊บ ปกฉัตร นี่ก็พากันหมดหล่อหมดสวยไปตามๆ กัน


ดูหนังฟรี

บ้าบอได้ใจ จัญไรได้ถ้วยไม่น้อยหน้าพี่ๆอาๆวงการตลกเลย เคยนั่งคิดเล่นๆว่าถ้า ตั๊ดสู้ฟุด ถูกสร้างในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ทุนสร้างที่เยอะขึ้น และมีคิวบู๊ระดับหนังฮ่องกง เอิ่ม...ไม่ต้องถึงขนาดฮ่องกงหรอก เอาแค่คิวบู๊มันได้พวก อ.พันนา อะไรพวกนี้มาทำให้ มันน่าจะสร้างความขลังให้หนังมากกว่าที่เป็น


สมมติว่าถ้ามันถูกสร้างด้วยสเกลเดียวกับ Kung fu hustle คนเล็กหมัดเทวดา เชื่อว่ามันจะเป็นผลงานที่โคตรน่าจดจำกว่าที่เป็น แต่เอาแค่นี้ก็ฟาดรายได้ไป 70 ล้านบาท สบายๆแล้วนะ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้การปล่อยตัวอย่างออกมา จำได้ว่าดูตัวอย่างในโรงนี่อย่างลั่น นึกว่าหนังโจวซิงฉือ


ตัวอย่างทำงานกับคนดูได้ดีมาก เพราะตัดเอาแต่ฉากลั่นๆมาใส่ จึงทำให้คนแห่ไปดูกัน ตั๊ดสู้ฟุด คือการสร้างหนังขึ้นมาจากความรักและเคารพที่ตัวผู้กำกับมีต่อหนังฮ่องกง มันจึงออกมาไม่ขี้เหร่เลย และจตุรงค์ก็เคารพในตัวตนของเขาด้วยเช่นกัน เขาเกิดมาได้ด้วยการรับบทกะเทยบนเวทีคาเฟ่


เมื่อความรัก และความเคารพสองสิ่งถูกเขย่ารวมกัน ออกมาเป็นหนังแล้วทำรายได้ดี มันจึงเหมือนเป็นความสุขที่ทำให้ชีวิตของจตุรงค์แกตายตาหลับจริงๆ

130 views0 comments
bottom of page